ทางรอดสุดท้ายของผู้หญิงที่กำลังจะถูกข่มขืน คือการตัด carotid ด้วย triangle choke

หลายคนอ่านหัวเรื่องแล้วอาจจะหัวเราะหรือรู้สึกขบขัน แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงมันไม่ขำเลยนะครับ

 ผู้หญิงทุกวันนี้น่าสงสารมาก มีภัยจากสังคมรอบตัว
ไม่เว้นแม้แต่แพทย์ที่ออกไปใช้ทุนเภสัชหรือพยาบาลผู้หญิง แน่นอนว่าทุกคนต้องพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว หรือหากเกิดขึ้นก็ต้องวิ่งหนี ตะโกนร้องให้คนช่วย หรือ ดิ้นรนทุกวิถีทาง แต่ก็มักจะสู้แรงผู้ชายไม่ไหว เมื่อสิ้นหวังหมดหนทางแล้วจริงๆ ในนาทีสุดท้ายก่อนที่จะโดนข่มขืน ผู้หญิงมักจะอยู่ใน guard position ของ MMA โดยที่คนร้ายนึกไม่ถึง ถ้าผู้หญิงคนนั้นเคยฝึก triangle choke มาจนชำนาญ แม้จะเป็นผู้หญิงที่แรงน้อยกว่า แต่ช่วงที่ผู้ชายเผลอหรือไม่คาดคิดว่าผู้หญิงจะใช้ท่านี้ได้ ประกอบกับกล้ามเนื้อช่วงล่างซึ่งต่อให้เป็นผู้หญิงก็ย่อมแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อท่อนบนของผู้ชาย
ในสถานการณ์แบบ 1:1 โอกาสรอดเกิน 50% แน่นอน

เท่าที่ผมทราบมา (ถ้าผิดพลาดขออภัยนะครับ) triangle choke เป็นท่าที่มีรากฐานมาจากยูโด และ บราซิลเลี่ยน ยิวยิตสู (BJJ) และเป็นท่าที่ใช้บ่อยสำหรับนักกีฬา MMA ในปัจจุบัน triangle choke มีหลายแบบหลายวิธี แต่จุดประสงค์เดียวกันนั่นคือกด carotid artery ลดเลือดไปเลี้ยงสมองเพื่อให้คู่ต่อสู้หมดสติชั่วคราว ด้วยกลไกแบบเดียวกับ syncope เป็นท่าที่อันตรายมาก




ในภาพตัวอย่างเป็นช่วงก่อนที่จะเข้า triangle choke ผมตัดมาจากวีดีโอสาธิตการทำ triangle choke แบบพื้นฐานที่ผู้ทำอาจจะตัวเล็กกว่า หรือ แข็งแรงน้อยกว่า สาธิตโดยครูปลาย และ ครูตอง แนะนำให้เข้าไปดูวีดีโอสาธิตตัวเต็มได้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=J9EjTL8HoRg



ถ้าหากครูปลาย หรือ ครูตอง ได้เข้ามาสอนการป้องกันตัวพื้นฐานให้นักเรียนแพทย์ หรือ แพทย์ประจำบ้าน ที่โรงพยาบาลซักเดือนละครั้งจะเป็นประโยชน์มากๆ และผมเชื่อว่าน่าจะมีน้องๆสนใจเรียนกันเยอะ ไม่ได้พูดเล่นนะครับ

เกี่ยวกับ cardio ยังไง เกี่ยวกับผมยังไง ... พอจบมาเป็นสตาฟ คุณอาจจะเจอคำถามหรือประเด็นที่ไม่มีในตำราหรือข้อสอบบอร์ด แต่เค้าไม่รู้จะพึ่งใคร ก็อาจจะต้องเป็นคุณนั่นแหละที่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ ... มีอาจารย์ออโธถามผมว่า triangle choke แล้วหมดสติในสนาม ปกติกี่วินาทีถึงจะฟื้นและเมื่อไหร่ต้องเรียกแพทย์สนาม หรือ ส่งโรงพยาบาล

ขออธิบายง่ายๆแบบนี้นะครับ

1. การบีบรัด carotid ทั้งสองข้างเพื่อลด blood flow ไปที่สมอง แม้จะไม่สามารถตัดได้ 100% แต่การลดลงของเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแค่ไม่ถึง 5 วินาที ก็สามารถทำให้หมดสติได้ โดยอาการหมดสติ จะรู้สึกค่อยๆ faint ไป เปรียบเหมือนหลอดไฟที่ค่อยๆหรี่ลงก่อนจะดับ ถ้าคลายการบีบรัด ควรฟื้นคืนสติกลับมาภายในไม่กี่วินาที ไม่ควรเกิน 10 วินาที หากเกินกว่านั้นต้องเรียกแพทย์สนามทันที

2. หากมีการอุดตันของหลอดเลือด carotid อยู่เดิมจากโรคของหลอดเลือดซึ่งเรามักจะพบในคนที่มีอายุหรือมีโรคร่วมอื่นๆ การบีบรัด carotid อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดไหลไปอุดตันเส้นเลือดสมอง เกิด อัมพาต ตามมาได้ ดังนั้นท่านี้ไม่ควรใช้แม้แต่ซ้อมเล่นกันเองหากอายุเกิน 40 หรือมีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคไต หรือ ความดันโลหิตสูง

3. ในบางรายซึ่งอาจจะอายุจะน้อยเป็นนักกีฬาแข็งแรงดี หรือ อายุมากก็ตาม อาจมีโรคหรือความผิดปกติที่หลอดเลือด carotid ที่มีความไวต่อการถูกกระตุ้น (carotid sinus syndrome) เมื่อถูกบีบรัด นอกจากจะหมดสติจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงแล้ว อาจเกิดการตอบสนองที่ผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด ในสองส่วนหลักๆได้แก่ หนึ่ง หลอดเลือดส่วนปลายทั่วร่างกายมีการขยายตัวทำให้ความดันโลหิตต่ำลง หรือ หัวใจหยุดเต้น (asystole) ไปชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองอย่างสามารถเกิดแยกกันหรือเกิดร่วมกันก็ได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่ฟื้นหลังจากคลายการบีบรัด

4. อีกกรณีที่พบได้ไม่บ่อย การบีบรัด carotid อาจกระตุ้นหรือส่งผลทางอ้อมให้เกิดการเต้นผิดจังหวะของหัวใจห้องล่าง เป็นสาเหตุให้หัวใจทำงานไม่ได้และเสียชีวิต

ดังนั้นหากเกิน 10 วินาทีและยังไม่ฟื้นคืนสติ ไม่ต้องจับชีพจร ให้เรียกแพทย์สนาม เรียกรถพยาบาล เริ่ม CPR และ ลากเครื่อง AED มาทันที ไม่อย่างนั้นเราอาจต้องเสียคนไข้ไปเลย




ที่มา :เพจ 1412 cardiology
ทางรอดสุดท้ายของผู้หญิงที่กำลังจะถูกข่มขืน คือการตัด carotid ด้วย triangle choke ทางรอดสุดท้ายของผู้หญิงที่กำลังจะถูกข่มขืน คือการตัด carotid ด้วย triangle choke Reviewed by HappinessplusC on 03:47:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.