[คลิป] แฉ (พระ)สุวิทย์ เคยโกงพรรษา และ ทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงถึงขั้นจับสึกได้ทันที

สำนักพุทธยืนยัน (พระ)สุวิทย์ ธีรธมฺโม ทำผิดพระวินัย ในการชักชวนประชาชน ให้ทำผิดกฎหมาย ถูกจับเมื่อไหร่ จับสึกได้ทันที หลักจากพาสาวก ปิดสำนักงานเขตหลักสี่ เป็นเหตุให้มีการปะทะกันรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ

(พระ)สุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เป็นชาวคลองเตย กรุงเทพฯ บวชครั้งแรกที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย บวชได้ 1 พรรษา ก็สึกออกไปเป็นทหาร 2 ปี 

หลังเสร็จภาระกิจการเป็นทหาร ก็กลับมาบวชใหม่ ที่วัดเดิม

(พระ)สุวิทย์ ต้องสึก และบวชใหม่อีกครั้งใน ปี 2544 เข้าใจกันว่า เป็นเพราะโกงอายุพรรษา การลาสิกขาครั้งนั้น เป็นข่าวใหญ่ครึกโครม ในปี 2544 ทีเดียว

มีหลักฐานว่า กรณีตำแหน่งเจ้าอาวาส กับ ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ระบุ อายุพรรษาแตกต่างกัน ระยะเวลาห่างกันเพียง 4 ปี แต่เอกสารทั้งสองฉบับ ระบุอายุต่างกัน 5 ปี และ พรรษาต่างกัน 6 ปี


ในงานอบรมพระวิปัสสนาจารย์ จังหวัดนครปฐมครั้งหนึ่ง พระศรีรัตนโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระวิปัสสนาจารย์นครปฐม รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เคย เทศนากล่าวถึง (พระ)สุวิทย์ ว่า

"บิดเบือนคำสอนพระพุทธศาสนา"

เมื่อ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในพื้นที่นครปฐมลงตีพิมพ์ ข้อความดังกล่าว มูลนิธิอิสระธรรม ได้ทำการฟ้องร้อง พระศรีรัตนโมลี และ หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นทันที หลังจากนั้นจึงมีการเปิดโปงการโกงอายุพรรษา ทำให้ (พระ)สุวิทย์ ประกาศลาสิกขาในเวลาต่อมา

ได้ทำพิธีลาสิกขา ในวันที่ 31 ธ.ค. 2544 และ ทำพิธีอุปสมบทใหม่ ในวันนั้นทันที

เป็นที่วิพากวิจารย์กันอย่างกว้างขวางในวงการพระพุทธศาสนาว่า การลาสิกขา แล้ว บวชใหม่เพื่อล้างความผิดแบบนี้ ทำได้ด้วยหรือ?

จากการตรวจสอบพบว่า (พระ)สุวิทย์ และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีความสนิทสนมกัน เป็นอย่างมาก นายสนธิ ได้ให้ (พระ)สุวิทย์ สัมภาษออกรายการโทรทัศน์ ทาง ASTV เพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ เกี่ยวกับการโกงอายุพรรษา ก่อนที่พระสุวิทย์จะลาสิกขา และยังเคยบริจาคให้วัดอ้อน้อยถึง 10 ล้านบาท ในปี 2545 ด้วย

ที่มา: ทีมข่าว DNN