ความสำเร็จในการกระตุกสร้างความรู้สึกพังภินท์ให้ชาติไทยของ DSI กรณีพระธัมมชโย

พฤติกรรมของรัฐโดยการปฏิบัติของ DSI นี้ รัฐบาลจะปฏิเสธว่าไม่รู้เพราะไม่ได้เป็นคนทำไม่ได้ เพราะ DSI เป็นหน่วยงานของรัฐ และเรื่องการพยายามยัดเยียดข้อหาและจับหลวงพ่อธัมมชโยสึก ให้ติดคุกหรือฆ่าให้ตายนี้ เป็นสิ่งที่ใหญ่ระดับนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาใบบัวมาปิดหรือทำท่าโมโหเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้
รัฐบาลกำลังสร้างประวัติศาสตร์แห่งการปลุกผีความเกลียดชัง ความสะเทือนใจ และความเคียดแค้น ความกดขี่และกดดันขึ้นในใจประชาชนจนถึงขั้นจับอาวุธนองเลือด เมื่อ DSI ขี้ข้าหน้าอิสตรีมือมืดที่เต็มไปด้วยความโลภทำลายพระธัมมชโยสำเร็จ ประชาชนจะรู้สึกถูกกดดันมากขึ้น จิตใจจะรู้สึกถูกกดขี่ตลอดเวลา ไม่เฉพาะคนห้าหกล้านคนที่อยู่ในทางของธรรมกายเท่านั้น แต่จะเพิ่มทวีขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเป็นอย่างน้อย จะเตรียมตัวเตรียมใจรับการถูกกดขี่ด้วยความพร้อมในการติดอาวุธเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลและผู้นำทางศาสนากับศาสนาอื่นที่รัฐบาลข้าทาสกำลังพยายามอุ้มชูอยู่
ในที่สุดสงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้น ชนชั้นปกครองทั้งหลายจะถูกทำลายลง คราวนี้ไม่ใช่โดยลัทธิคอมมิวนิสต์หรือเผด็จการฟาสซิสต์ผสมทุนนิยมเพื่อครอบครัวตัวเองที่รัฐพยายามจะลอกเลียนและสร้างขึ้นจากฐานจีนและรัสเซียเพื่อความมั่งคั่งของพวกตระกูลตนเอง แต่จะเป็นเพราะคนที่มีความเชื่อในศาสนาและคนที่ต้องการความยุติธรรมซึ่งรัฐได้เมินเฉยและกระชากฉวยจากพวกเขาไป เมื่อวัดพระธรรมกายบาดเจ็บ วัดต่างๆจะเริ่มรับรู้ถึงความบาดเจ็บและจะเริ่มเตรียมป้องกันตัว ในที่สุดจะมีการรวมตัวกันขึ้น จะไม่มีอาหรับสปริงส์ แต่จะเป็นมวลชนชั้นเทพต่อสู้กับความชั่วร้ายของรัฐและศาสนาชั่วที่อยู่เบื้องหลัง นำไปสู่การเตรียมตัวของยุคบรรลัยกัลป์ที่จะตามมา ใครมีตาจงมองเถิด ใครมีหูจงฟังเถิด ใครมีปัญญาจงคิดเถิด จำภาพของนักรบบูชิโดเก่าของญี่ปุ่นไว้ให้ดี ต่อให้รัฐริดรอนสิทธิเสรีภาพและกำจัดอาวุธของเขาไปทั้งสิ้น ก็ยังจะมีคนทำมันให้สำเร็จ ทั้งที่ไม่ต้องไปซื้อหารถถังซากเรือรบเหลือเดนของใครมาให้คนในชาติกินกากเศษเหล็กที่เอามากองสุมในประเทศด้วย
ถ้ารัฐไม่รีบแก้ไขหรือเข้ามารับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่รัฐจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่มา: Jaunita-DC Solis @solis_dc @Medium ift.tt/1OqLjmi
ที่มา: Jaunita-DC Solis @solis_dc @Medium ift.tt/1OqLjmi
ความสำเร็จในการกระตุกสร้างความรู้สึกพังภินท์ให้ชาติไทยของ DSI กรณีพระธัมมชโย
Reviewed by
MFNews
on
10:41:00
Rating:

ไม่มีความคิดเห็น :