#พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็น จักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิโมริยะ ครองราชย์ พ.ศ.270-พ.ศ.231
พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็น
จักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิโมริยะ
ครองราชย์ พ.ศ.270-พ.ศ.231
เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ที่โหดร้าย
ชอบทำสงครามกับแว่นแคว้นต่างๆ
แต่หลังจากที่พระองค์
หันมานับถือ พระพุทธศาสนาแล้ว
ก็ทรงกลายเป็น เอกอัครศาสนูปถัมภ์
บำรุงพระพุทธศาสนา ให้มีความเจริญ
รุ่งเรือง และแผ่ขยายมากที่สุด
ในประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา
ทรงสร้างวัดมากถึง 84,000 วัด
และสร้างพระสถูปทั่วชมพูทวีปถึง
84,000องค์ตามจำนวนพระธรรมขันธ์
แม้ทรงนับถือศาสนาพุทธ
แต่ก็มิได้เบียดเบียนข่มเหง ศาสนาอื่น
กลับส่งเสริมสนับสนุนอีก เช่น
ทรงอุทิศถ้ำอชันตา ให้แก่ศาสนาเชน
เช่นดังคำศิลาจารึกที่ 13 ความว่า.....
"การเหยียดหยามศาสนาอื่น
มิได้ทำให้ศาสนาของตนดีขึ้นเลย
กลับแย่ลงเสียอีก"
เมื่อสิ้นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแล้ว
ผู้สืบสันตติวงศ์ของพระองค์
ก็เสื่อมอำนาจจนกระจัดกระจาย
พระพุทธศาสนา ขาดกษัตริย์อุปถัมภ์
และปกป้องก็เสื่อมลงเรื่อยๆ
กระทั่งถึงประมาณพ.ศ.359
มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อศุงศ์
ได้ก่อการชิงราชสมบัติ จากกษัตริย์
วงศ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช
แล้วตั้งตนเป็นกษัตริย์นาม"ปุษยมิตร"
สมัยนี้ศาสนาพราหมณ์
ซึ่งมีพระเจ้าปษยมิตร เป็นราชูปถัมภ์
ก็ได้กระเตื้องขี้นมามาก
แต่พระพุทธศาสนาเริ่มซบเซาลง
วัดวาอารามถูกทำลาย
พระภิกษุสามเณรถูกฆ่า
มีการตั้งรางวัล เป็นเงินจำนวนมาก
แก่ผู้ตัดศรีษะพระภิกษุได้
พระภิกษุจำนวนมาก หวั่นเกรงภัยหนี
จากแคว้นมคธ ไปอยู่ทางภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคใต้ของอินเดีย.....................
............................................
ข้อความต่อจากนี้ขอให้ท่านโปรดอ่าน
"ยุคมืดพุทธศาสนาในอินเดีย" เถิด
.............................................
ประวัติศาสตร์ศาสนา ทุกยุคทุกสมัย
บอกเราว่า "เมื่อใดพุทธเรืองอำนาจ
จะอุปถัมภ์ทุกศาสนา ให้อยู่ผาสุก
แต่เมื่อใดศาสนาอื่น เรื่องอำนาจ
เมื่อนั้นศาสนาพุทธ ก็ถูกกำจัดตัดหัว
ถอนรากถอนโคนให้สิ้นจากแผ่นดิน"
เมื่อหลายล้านปีมาแล้ว
ดวงอาทิตย์ ก็ขึ้นทางทิศตะวันออก
และตกทางทิศตะวันตก เช่นกับวันนี้
ประวัติศาสตร์ศาสนาในอดีต
เป็นเช่นไร..อนาคตก็จะเป็นเช่นนั้น!!
Cr/ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิโมริยะ
ครองราชย์ พ.ศ.270-พ.ศ.231
เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ที่โหดร้าย
ชอบทำสงครามกับแว่นแคว้นต่างๆ
แต่หลังจากที่พระองค์
หันมานับถือ พระพุทธศาสนาแล้ว
ก็ทรงกลายเป็น เอกอัครศาสนูปถัมภ์
บำรุงพระพุทธศาสนา ให้มีความเจริญ
รุ่งเรือง และแผ่ขยายมากที่สุด
ในประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา
ทรงสร้างวัดมากถึง 84,000 วัด
และสร้างพระสถูปทั่วชมพูทวีปถึง
84,000องค์ตามจำนวนพระธรรมขันธ์
แม้ทรงนับถือศาสนาพุทธ
แต่ก็มิได้เบียดเบียนข่มเหง ศาสนาอื่น
กลับส่งเสริมสนับสนุนอีก เช่น
ทรงอุทิศถ้ำอชันตา ให้แก่ศาสนาเชน
เช่นดังคำศิลาจารึกที่ 13 ความว่า.....
"การเหยียดหยามศาสนาอื่น
มิได้ทำให้ศาสนาของตนดีขึ้นเลย
กลับแย่ลงเสียอีก"
เมื่อสิ้นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแล้ว
ผู้สืบสันตติวงศ์ของพระองค์
ก็เสื่อมอำนาจจนกระจัดกระจาย
พระพุทธศาสนา ขาดกษัตริย์อุปถัมภ์
และปกป้องก็เสื่อมลงเรื่อยๆ
กระทั่งถึงประมาณพ.ศ.359
มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อศุงศ์
ได้ก่อการชิงราชสมบัติ จากกษัตริย์
วงศ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช
แล้วตั้งตนเป็นกษัตริย์นาม"ปุษยมิตร"
สมัยนี้ศาสนาพราหมณ์
ซึ่งมีพระเจ้าปษยมิตร เป็นราชูปถัมภ์
ก็ได้กระเตื้องขี้นมามาก
แต่พระพุทธศาสนาเริ่มซบเซาลง
วัดวาอารามถูกทำลาย
พระภิกษุสามเณรถูกฆ่า
มีการตั้งรางวัล เป็นเงินจำนวนมาก
แก่ผู้ตัดศรีษะพระภิกษุได้
พระภิกษุจำนวนมาก หวั่นเกรงภัยหนี
จากแคว้นมคธ ไปอยู่ทางภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคใต้ของอินเดีย.....................
............................................
ข้อความต่อจากนี้ขอให้ท่านโปรดอ่าน
"ยุคมืดพุทธศาสนาในอินเดีย" เถิด
.............................................
ประวัติศาสตร์ศาสนา ทุกยุคทุกสมัย
บอกเราว่า "เมื่อใดพุทธเรืองอำนาจ
จะอุปถัมภ์ทุกศาสนา ให้อยู่ผาสุก
แต่เมื่อใดศาสนาอื่น เรื่องอำนาจ
เมื่อนั้นศาสนาพุทธ ก็ถูกกำจัดตัดหัว
ถอนรากถอนโคนให้สิ้นจากแผ่นดิน"
เมื่อหลายล้านปีมาแล้ว
ดวงอาทิตย์ ก็ขึ้นทางทิศตะวันออก
และตกทางทิศตะวันตก เช่นกับวันนี้
ประวัติศาสตร์ศาสนาในอดีต
เป็นเช่นไร..อนาคตก็จะเป็นเช่นนั้น!!
Cr/ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
#พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็น จักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิโมริยะ ครองราชย์ พ.ศ.270-พ.ศ.231
Reviewed by
HappinessplusC
on
07:58:00
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น :