เรื่องการยกเลิกการรับนักศึกษามุสลิมเข้าศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล

เรื่องการยกเลิกการรับนักศึกษามุสลิมเข้าศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล....

วันที่ 3 เมษายน 2562
เรื่อง ขอให้ยุติโควต้านักศึกษามุสลิมเข้าศึกษาฟรีในมหาวิทยาลัยของรัฐ
            เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
สิ่งที่ส่งมาด้วย เอกสารจำนวน 34 หน้า
             ตามที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นหนึ่งในจำนวนมหาวิทยาลัยของรัฐที่จัดให้มีโครงการรับนักศึกษามุสลิมเข้าศึกษาฟรีในมหาวิทยาลัย โดยไม่ผ่านการสอบวัดผลเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ (Entrance) ตามระเบียบทางราชการ อันเนื่องมาจากโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2513 เป็นต้นมานั้น ทำให้นักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลามได้รับสิทธิพิเศษเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐฟรี อันทำให้ได้นักศึกษาที่ขาดคุณภาพ และละเมิดสิทธิของนักศึกษาที่นับถือศาสนาอื่นๆ โดยทั่วไป

จากโครงการดังกล่าว เป็นเหตุให้สร้างความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาของรัฐ เข้าข่ายละเมิดสิทธิของนักศึกษาที่นับถือศาสนาอื่นๆ เป็นเครื่องมือให้ความรุนแรงในภาคใต้ของไทยยังคงดำรงอยู่ต่อไป และเป็นช่องทางพิเศษให้กลุ่มนักศึกษาดังกล่าวแปรสภาพเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในรูปแบบต่างๆ โดยไม่ผ่านกระบวนการสอบแข่งขันอีกเช่นกัน โดยประเด็นหลักๆ ที่ควรยกเลิกนั้น มีดังนี้

1. โครงการดังกล่าวโดยการปรารภว่า เพื่อให้นักศึกษามุสลิมที่มีความด้อยทางด้านภาษา ชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์  เป็นต้น ไม่มีความน้อยเนื้อต่ำใจจึงควรให้สิทธิพิเศษเพื่อเข้าศึกษาร่วมกับนักศึกษาอื่นๆ เพื่อให้ได้มีการศึกษาและจะเป็นเหตุให้ความรุนแรงในสังคมมุสลิมลดลง แต่หลังจากดำเนินการโครงนี้มาเป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ความรุนแรงกลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่กลับมีความทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากเพิ่มขึ้น โครงการให้การศึกษาฟรีแก่นักศึกษามุสลิมจึงไม่สัมฤทธิ์ผลตามที่ตั้งไว้  จึงควรยกเลิกเสีย

2. เหตุความรุนแรงในภาคใต้ของไทย ตามสถิติ 14 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 ถึง 28 ธันวาคม 2560 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7,666 คน บาดเจ็บ 13,115 คน จนถึงปัจจุบันนี้ ปี 2562 คาดว่าเกินกว่า 80,000 คนแล้ว ซึ่งตามประวัติผู้ก่อเหตุความรุนแรงจำนวนหนึ่งยังคงเป็นนักศึกษาอยู่ ทั้งในและต่างประเทศซึ่งบางคนก็คือ นักศึกษาในโครงการนักศึกษามุสลิมเรียนฟรีเหล่านี้รวมอยู่ด้วย จึงสมควรยกเลิก

3. สถิติในปีการศึกษา 2553 ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต.ว่าเด็กนักศึกษามุสลิมเรียนฟรี เพียงปี 1 โดนรีไทร์กว่า 3,000 คน ซึ่งนักศึกษาเหล่านั้นล้วนแต่มาจากโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามทั้งสิ้น นอกจากนี้  แม้นักศึกษาที่ได้รับงบประมาณอุดหนุนไปศึกษาต่างประเทศก็ประสบปัญหาเดียวกัน ทำให้ต้องเปลี่ยนสถานที่เรียนและประเทศที่ให้การศึกษาด้วย ตามเอกสารที่แนบมาด้วยนี้ การให้โควตานักศึกษามุสลิมเรียนฟรีดังกล่าว จึงไม่ประสบผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ จึงควรยกเลิกเสีย

4. นักศึกษาที่เข้าโครงการจำนวนมาก ล้วนแต่เป็นนักศึกษาที่เคยผ่านโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม หรือปอเนาะ หรือตาดีกา มาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งเนื้อหาที่ถูกสอนในคัมภีร์อัลกุรอานนั้น มีเนื้อหาสร้างความรุนแรง และสั่งคนมุสลิมให้ทำร้ายคนที่นับถือศาสนาอื่น ซึ่งคำสอนเช่นนี้มีมากมายหลายบทในคัมภีร์อัลกุรอ่าน เช่น
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย  พวกเจ้าจงทำศึกกับบรรดาพวกไร้ศรัทธาที่อยู่ใกล้เคียง (เพื่อให้หมดเสี้ยนหนาม) และจงทำให้พวกเขาได้พบกับความแข็งแกร่งในหมู่พวกเจ้า และพวกเจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงอัลเลาะห์อยู่พร้อมกับบรรดาผู้ยำเกรง” (ซูเราะห์ที่ 9: 123 อัตเตาบะห์)

“พวกเจ้าจงฟาดฟันลงไปบนต้นคอทั้งหลายของข้าศึกเถิด  และจงฟาดฟันทุกปลายนิ้วมือของพวกมัน นั่นเป็นคำบัญชาจากอัลเลาะห์ เพราะเหตุพวกเขาได้ต่อต้านอัลเลาะห์ และศาสนฑูตของพระองค์ และผู้ใดต่อต้านอัลเลาะห์ และศาสนทูตของพระองค์ แน่นอนอัลล์ทรงลงโทษรุนแรงยิ่งนัก” (ซูเราะห์ที่ 8 :12-13 อัลอัมฟาล)

เมื่อนักศึกษาได้รับการอบรมและท่องบ่นซูเราะห์ในอัลกุรอานเหล่านี้อยู่เป็นประจำ จึงยากที่จะทำให้นิสัยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ ปัญหาความรุนแรงจึงเกิดในสังคมมุสลิม แม้จะมีการศึกษาดีก็ตาม การเปิดโครงการให้เรียนฟรี กลับจะทำให้สถาบันการศึกษาของไทยกลายเป็นที่ซ่องสุมของผู้ก่อความไม่สงบด้วยซ้ำไป จึงควรยกเลิกเสีย

5. ในยุทธศาสตร์การสนับสนุนการศึกษาของนักศึกษาไทยมุสลิมในต่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐกว่า 22 หน่วยงาน คือ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ.  กระทรวงต่างประเทศ ศอ.บต.  กรมประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานจุฬาราชมนตรี ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานรัฐที่ปฏิบัติงานอยู่ในต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง โรงงานอุตสาหกรรม  ภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กอ.รมน. เครือข่ายองค์กรมุสลิมที่เกี่ยวข้อง    หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวกรองแห่งชาติ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และสำนักงบประมาณให้การสนับสนุนนักศึกษามุสลิมใน 4 ยุทธศาสตร์ คือ

(1) ยุทธศาสตร์การดำเนินการก่อนการเดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ
(2) ยุทธศาสตร์การดำเนินการขณะศึกษาในต่างประเทศ
(3)ยุทธศาสตร์ภายหลังกลับจากการศึกษาจากต่างประเทศ
(4) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ (กระบวนการให้ผู้จบการศึกษาเข้าทำงานในหน่วยงานราชการฟรี)

วิธีการและกระบวนการทั้งหมดในแผนยุทธศาสตร์นี้ ล้วนสร้างความได้เปรียบให้กับนักศึกษามุสลิมทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันก็ละเมิดสิทธิของนักศึกษาไทยที่นับถือศาสนาอื่นทั้งหมดจึงควรยกเลิกเสีย

              จึงเรียนมายังอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ขอให้มีคำสั่งให้ยุติการรับนักศึกษามุสลิมเรียนฟรีในโครงการดังกล่าวทั้งหมด ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 นี้เป็นต้นไป มิฉะนั้นแล้ว ท่านและมหาวิทยาลัยอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

            จึงเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดดำเนินการตามเหตุผลดังกล่าว

             ขอแสดงความนับถือ

             (ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์)
             ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน
เรื่องการยกเลิกการรับนักศึกษามุสลิมเข้าศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องการยกเลิกการรับนักศึกษามุสลิมเข้าศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล Reviewed by MFNews on 20:05:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.