ในโลกของทุนนิยม เราจ่ายเงินไปบางส่วนเพื่อนำมาเพิ่มความสุขอีกส่วน และในขณะที่ความสุขกำลังเดินทางโดยผ่านตัวเงิน ยังมีอีกโลกที่หาความสุขจาก การหยิบยื่นความจริงใจและความปรารถนาดีให้กัน โดยผ่านคำว่า “ศรัทธา”
เราทุกคนต้องการที่พึ่งและที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ต่อให้ในสมัยใดก็ตาม สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการนำพาตัวเอง มาอยู่ยังที่ห่างไกลจากเมืองหลวง คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร รวยหรือจน สูงศักดิ์หรือต่ำต้อย ต่างก็ต้องการของกลางในการยึดเหนี่ยวจิตใจ เหตุผลก็เพราะ เราทุกคนยังคงมีความทุกข์ที่คอยกัดกร่อนความสุขของเรา ต่อให้ไม่มีศาสนา...สิ่งอื่นก็เข้ามาเป็นตัวแทนในการละความทุกข์ของทุกคนอยู่ดี
เมื่อเสียงบดขยี้ของพื้นดินกับล้อยางดังขึ้น การเดินทางที่ทุลักทุเลก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ความเร็วของรถนำพาฝุ่นเม็ดละเอียดสีแดงวิ่งเข้าชนหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า แสงแดดที่แผดเผายามบ่าย ไม่ได้ทำให้เด็กน้อยเหล้านี้ ท้อแท้ งอแง เหมือนกับเด็กทั่วไปที่ควรจะเป็นเลย ตรงกันข้าม พวกเขามองแต่ข้างหน้า ราวกับว่ากำลังท้าทายอุปสรรคที่ธรรมชาติให้พวกเขามา
มันคงจะดี...ถ้าเครื่องยึดเหนี่ยวจิตรใจ นำพาเราไปสู่หนทางในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง หลุดพ้นจากกฎหมายของสังคม และทุกคนหันเข้าหากฏกลาง ของการดำเนินชีวิตและค้นหาความสุขที่แท้จริง.....
แล้วพบกันตอนหน้า------>>>
ที่มา: https://www.facebook.com/boonparpai/
ไม่มีความคิดเห็น :