บุญพาไป: ศรัทธานิยม 3

ศรัทธานิยม 3
เวลาที่มีคนเถียงกัน เรื่องความดีกับความชั่ว
บทสรุปที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอคือ “โถ่...โลกเรามันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรที่เป็นความดีจนถึงขั้นบริสุทธิ์ หรือชั่วร้ายจนถึงขั้นดำมืดหรอก โลกมันสีเทา”
สำหรับผม ที่มันเป็นแบบนี้ เพราะโลกประกอบไปด้วย ส่วนผสมที่ลงตัว ระหว่างการให้อภัย กับความอาฆาตต่างหาก ... เราควรดีใจที่ได้อยู่บนโลกสีเทาใบนี้ เพราะเรา ยังมีสิทธิ์เลือก ว่าจะเป็นด้านขาวหรือดำ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ
ความสมบูรณ์แบบบนโลกแห่งความจริงสีเทาใบนี้ ที่มีหลายคนต้องการอยากจะให้มันเป็น โดยที่เราไม่เคยทำความเข้าใจอะไรกับมันเลยนอกจากเรียกร้องหาแต่มัน หลายครั้งที่เราชอบเปรียบเปรยสิ่งต่างๆราวกับว่าเราเป็นผู้ที่แก่กล้าประสบการณ์ ผ่านสมรภูมิชีวิตมามาก แล้วเราก็เริ่มถ่ายทอดความต้องการของการอยากเห็นความสมบูรณ์แบบในอณูของชีวิต เริ่มจาการพร่ำสอนในสิ่งที่เราคิดเอาเองว่านั้นคือความถูกต้อง ให้กับผ้าขาวผืนแล้วผืนเล่า บางผืนเปรอะเปื้อนเกือบจะกลายเป็นผ้าสีดำ
วิ่ง
เหล็กกล้า...มีมูลค่าเท่ากัน แต่ถูกนำมาใช้ให้เกิดคุณค่าที่ต่างกัน

ปลงผม
ถ้าเราลองเปรียบเทียบคุณค่ากับความสมบูรณ์แบบของ เหล็กกล้า 1 ชิ้น เราจะพบว่า เหล็กกล้าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ นำมันไปตีหัวคน ก็สามารถทำให้เกิดความเกลียดชังได้ นำไปทำสะพานข้ามแม่น้ำ ก็จะสร้างความสะดวกในการเดินทางได้ หรือจะนำไปเป็นส่วนผสมของอาวุธสงคราม ก็สามารถสร้างสงครามได้ เหล็กกล้า 1 ชิ้นนี้เมื่อถูกหลอมประกอบเข้ากับเหล็กกล้าชิ้นอื่นๆก็ สามารถเป็นทุกอย่างที่ผู้สร้างอยากให้มันเป็น แต่ไม่ว่าจะนำไปสร้างอะไร คุณค่าของเหล็กกล้าที่มีมูลค่าเท่ากัน จะมีคุณค่าต่างกันเสมอเมื่อ ผู้สร้างเข้าใจถึงคำว่า “คุณค่าจากสิ่งเล็กๆ”



ปลงผม

  • ถ้าจะรักษาโลกสีเทาของเราไว้ให้ได้ เราก็ต้องรีบเร่งผลิตผ่าสีขาวออกมาให้ได้มากที่สุด เพราะโลกเรามีมลพิษที่เป็นสีดำอยู่รอบตัวเสมอ ไม่ว่าผ้าจะขาวสะอาดเพียงไร เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งสกปรกจะเข้ามาปกคลุมเอง




ปลงผม

  • เราแสวงหาความยิ่งใหญ่ จากสิ่งที่มันยิ่งใหญ่ แต่เราไม่เคยแสวงหาความยิ่งใหญ่ จากสิ่งเล็กๆ และค้นพบว่ามันจะยิ่งใหญ่ในใจเราได้อย่างไร



ปลงผม
ผมใช้เวลาอยู่กับคนบนดอยได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็พบว่า ความศรัทธาที่ผมเคยคิดว่ามันกำลังเลือนลาง ได้ชัดเจนในใจผมขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อผมได้ไปคุยกับเด็กๆที่นั่น คำถามหลักๆของผมคือ ทำไมถึงมาบวช? ไม่ต้องเรียนหนังสือหรอ? ไม่ไปเล่นอะไรหรอ? คำตอบที่ผมได้จากเด็ก 8 ใน 10 คน กับการคุยกันคนละวัน คนละสถานที่ คนละเวลา ว่า “บวชให้แม่ครับ” ... “อยากเรียนพระพุทธเจ้าครับ” คำนี้เด็กพูด ผมเข้าใจว่าน้องเขาอาจจะหมายถึงการเรียนสมาธิหรือการศึกษาธรรมมะ อะไรทำนองนั้น
คำถามที่ติดอยู่ในใจผมจนถึงวันนี้คือ...อะไรสอนพวกเขาให้คิดแบบนี้ แน่นอนมันเป็นเรื่องดี และสำหรับผม มันดีจนผมเองคิดในใจว่า พวกเขาไม่ควรโตเลย พวกเขาไม่ควรจะต้องแปดเปื้อนกับคำสอนที่มันผิดๆ จนทำให้เขาสับสนเลย แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่ความคิดของผมเท่านั้น

ปลงผม
ความเรียบง่ายของพิธีกรรมที่นี่ ทำให้บรรยากาศทุกอย่างดูจริงหมด การได้ขึ้นมาถ่ายภาพครั้งนี้ทำให้เรามีสิ่งที่อัดอั้นในใจอยู่อีกเยอะ สิ่งที่แตกต่างจากคนเมือง สัมผัสบางอย่างที่ยากจะเข้าถึงแต่ง่ายที่จะเข้าใจ ทำให้เราตระหนักได้ว่า ความศรัทธา ไม่ได้เกิดจากการพูดหรือถกเถียงกันด้วยข้อกฎหมายหรือความถูกต้องที่บางครั้งอาจจะไม่จริง สิ่งที่ตาเห็นและสิ่งที่ใจเราเชื่อ ล้วนเป็นสิ่งที่เราควรจะนำมายึดมั่นและมอบความศรัทธาให้กับสิ่งนั้นอย่างสนิทใจ วันนี้ในเมืองมีเรื่องมากมายที่สุดท้าย จะกลายเป็นภาระของความศรัทธาในอนาคตอันใกล้ ถึงเวลานี้ผมแค่อยากบอกว่า อย่าให้ใครมาลดทอนความศรัทธาที่เรามีต่อบางสิ่งไป เพราะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความศรัทธา คือความสมบูรณ์แบบที่เราทุกคนควรมี






ล้างหัว

เมื่อไหร่ที่เรากำลังสับสน ขอให้มองย้อนกลับไปในวันที่เราเป็นเด็ก เพราะเราในตอนนั้น จริงที่สุด



have fun
ที่มา: https://www.facebook.com/boonparpai/
บุญพาไป: ศรัทธานิยม 3 บุญพาไป: ศรัทธานิยม 3 Reviewed by MFNews on 02:26:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.