เมื่อทางธรรมไม่ยุ่งกับทางโลก แต่ทางโลกมารุกรานทางธรรมเช่นนี้ พระสงฆ์ทั้งแผ่นดินควรจะทำอย่างไรต่อไป

ช่วงสามเดือนมานี้
การคณะสงฆ์ตกเป็นเป้าเล่นงาน
จากผู้มีอำนาจในการใช้กฎหมายหลายฝ่าย
ทำให้เราต้องมาหาความรู้กฎหมายจากผู้รู้ทุกเช้า
และเพราะความที่เราไม่ได้เรียนกฎหมายมา
จึงมีคำถามประหลาดๆ ออกนอกประเด็นไปมากมาย
กลายเป็นเอาเรื่องปวดหัวไปให้ผู้รู้เสียอีก




ข้อคิดหนึ่งที่ได้รับจากการสนทนาก็คือ
ผู้ใช้กฎหมายแต่ละคนมีความถนัด
ในการต่อสู้ไม่เหมือนกัน
บางคนถนัดวางหมากไปสู้บนศาล
บางคนถนัดวางหมากตัดจบก่อนขึ้นศาล
ส่วนว่าจะเลือกทางไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า
เมื่อประเมินผลลัพธ์แล้ว
ทางไหนเกิดความเสียหายน้อยกว่ากัน

เมื่อแนวคิดต่างกัน
การวางยุทธศาสตร์ก็ต่างกัน
การสร้างความชอบธรรมก็ต่างกัน
การสร้างบรรยากาศก็ต่างกัน
วิธีการต่อสู้ก็ต่างกัน
วิธีทำลายความชอบธรรมก็ต่างกัน
ความเสียหายที่ได้รับก็ต่างกัน

ในทางปฏิบัติต้องเตรียมไว้ทั้งสองวิธีการ
เพราะกว่าจะรู้ว่าควรใช้แนวทางไหน
ก็ต่อเมื่อได้เจอคู่ต่อสู้ในสนามจริงเท่านั้น
ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายถนัดแนวไหน ไม่ถนัดแนวไหน
และควรสู้อย่างไรถึงจะชนะทั้งในแง่กฎหมาย
ชนะทั้งในแง่มวลชน ชนะทั้งในแง่ความชอบธรรม

พอนั่งฟังคำสนทนาจบลง ก็คิดในใจ
ถ้าก่อนเข้าวัด เราเรียนกฎหมายมา
สงสัยจะไม่ได้มาบวช เพราะถ้าไม่ไปนอนให้พระสวด
ก็คงมีคนชั่วต้องเดือดร้อนเพราะเราอีกหลายคน

ดีนะ...ที่เราเรียนเฉพาะการปลูกต้นไม้มา
จึงได้มาบวชถึงวันนี้ เพราะการอยู่กับธรรมชาติ
ใจจึงหวังแค่ว่าได้มีชีวิตอยู่อย่างสงบในร่มพระธรรม
ไม่ได้อยากมียศตำแหน่ง ไม่ได้อยากเด่นอยากดัง
ไม่ได้อยากเป็นเจ้าคนนายคนแต่อย่างใด

แต่สถานการณ์หลังบวช ก็ยังมิวายเจอเรื่องไม่สงบ
ทำให้ต้องมานั่งดูวิธีการใช้กฎหมายทำลายสงฆ์
ของผู้มีอำนาจหลากหลายฝ่ายอีกจนได้

แล้วก็ฉุกคิดขึ้นว่า ในเมื่อทางธรรมไม่ยุ่งกับทางโลก
แต่ทางโลกมารุกรานทางธรรมเช่นนี้
พระสงฆ์ทั้งแผ่นดินควรจะทำอย่างไรต่อไป


-----------------------------------------------------------------

๒๔ เมษายน ๒๕๕๙

๑๙.๐๓ น.

ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเด็กชงกาแฟ
อ่านจบแล้วก็อย่าไปจริงจังกับมันมาก

ที่มา PTreetep Chinungkuro
เมื่อทางธรรมไม่ยุ่งกับทางโลก แต่ทางโลกมารุกรานทางธรรมเช่นนี้ พระสงฆ์ทั้งแผ่นดินควรจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อทางธรรมไม่ยุ่งกับทางโลก แต่ทางโลกมารุกรานทางธรรมเช่นนี้  พระสงฆ์ทั้งแผ่นดินควรจะทำอย่างไรต่อไป Reviewed by HappinessplusC on 22:10:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.