ก่อนจะสร้างสรรค์สิ่งใดออกมา ต้องแบ่งให้ดีว่า สิ่งที่ทำนั้น มันเป็นของกิน ของใช้ ของโชว์
ก่อนจะสร้างสรรค์สิ่งใดออกมา
ต้องแบ่งให้ดีว่า สิ่งที่ทำนั้น
มันเป็นของกิน ของใช้ ของโชว์
ของอนุรักษ์ หรือของเคารพบูชา
เพราะถ้าสร้างสรรค์แล้วไปกระทบ
กับความเชื่อในเรื่องการอนุรักษ์นิยม
หรือเรื่องศิลปกรรมทางศาสนา
มันจะมีดราม่าทางสังคมได้เสมอ
ยกตัวอย่างเช่น
ศาลาสร้างใหม่ในวัดเก่าแก่
ถึงแม้จะใช้งานดี ราคาประหยัด
ดูแลรักษาง่าย และมีเจ้าภาพก่อสร้าง
แต่ถ้าการดีไซน์รูปทรง
ไม่เข้ากับเจดีย์เก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี
มันก็มีปัญหาในเรื่องความเข้ากันได้
ทางสถาปัตยกรรมขึ้นมาทันที
นำไปสู่การรื้อๆ ทุบๆ สร้างใหม่
สะเทือนใจพระเณร สะเทือนใจเจ้าภาพ
เกิดดราม่าระหว่างเจ้าของวัด
กับฝ่ายอนุรักษ์ศิลปกรรมกันหลายรอบ
ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ตัดสินกันตามกฎหมาย
แต่ถ้าเป็นเรื่องทางสังคม อันนี้ต้องใช้เวลา
(การแบ่งโซนของเก่า-โซนของใหม่จึงจำเป็น)
เพราะกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดหรือถูก
ก็ต้องวัดกันที่ว่าสังคมนั้นให้การยอมรับ
ในระยะสั้น หรือระยะยาว
ถ้ายอมรับแค่ช่วงสั้นๆ
เดี๋ยวมันก็ฝ่อตายไปเอง
แต่ถ้ายอมรับได้ในระยะยาว
ก็กลายเป็นของใหม่ร่วมสมัยขึ้นมา
เป็นสัญลักษณ์บอกช่วงเวลามนุษย์ในแต่ละยุคสมัย
เหมือนกับที่มีการแบ่งประวัติศาสตร์ศิลปะ
ออกเป็นยุคเก่า ยุคกลาง ยุคใหม่
โลกมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว
ถ้านำของเก่ามาประยุกต์ใหม่
แล้วสังคมยอมรับก็กลายเป็นการสร้างสรรค์
แต่ถ้าสังคมไม่ยอมรับก็กลายเป็นการทำลาย
ทุกอย่างต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัว
ไม่มียกเว้นแม้แต่สถาปัตยกรรม
อันใหญ่โตอลังการในวัดพระธรรมกาย
ที่มีเจตนาสร้างขึ้นเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา
แต่ก็ยังมิวายต้องพิสูจน์ความจำเป็น
ความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการใช้งาน
ให้สังคมเห็น ให้สังคมยอมรับ แม้คนกว่า 90 %
จะไม่ได้ช่วยออกเงินค่าก่อสร้างวัดสักบาทเดียวก็ตาม
-----------------------------------------------------------
๒๓ กันยายน ๒๕๕๙
๑๙.๓๑ น.
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว
ต้องแบ่งให้ดีว่า สิ่งที่ทำนั้น
มันเป็นของกิน ของใช้ ของโชว์
ของอนุรักษ์ หรือของเคารพบูชา
เพราะถ้าสร้างสรรค์แล้วไปกระทบ
กับความเชื่อในเรื่องการอนุรักษ์นิยม
หรือเรื่องศิลปกรรมทางศาสนา
มันจะมีดราม่าทางสังคมได้เสมอ
ยกตัวอย่างเช่น
ศาลาสร้างใหม่ในวัดเก่าแก่
ถึงแม้จะใช้งานดี ราคาประหยัด
ดูแลรักษาง่าย และมีเจ้าภาพก่อสร้าง
แต่ถ้าการดีไซน์รูปทรง
ไม่เข้ากับเจดีย์เก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี
มันก็มีปัญหาในเรื่องความเข้ากันได้
ทางสถาปัตยกรรมขึ้นมาทันที
นำไปสู่การรื้อๆ ทุบๆ สร้างใหม่
สะเทือนใจพระเณร สะเทือนใจเจ้าภาพ
เกิดดราม่าระหว่างเจ้าของวัด
กับฝ่ายอนุรักษ์ศิลปกรรมกันหลายรอบ
ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ตัดสินกันตามกฎหมาย
แต่ถ้าเป็นเรื่องทางสังคม อันนี้ต้องใช้เวลา
(การแบ่งโซนของเก่า-โซนของใหม่จึงจำเป็น)
เพราะกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดหรือถูก
ก็ต้องวัดกันที่ว่าสังคมนั้นให้การยอมรับ
ในระยะสั้น หรือระยะยาว
ถ้ายอมรับแค่ช่วงสั้นๆ
เดี๋ยวมันก็ฝ่อตายไปเอง
แต่ถ้ายอมรับได้ในระยะยาว
ก็กลายเป็นของใหม่ร่วมสมัยขึ้นมา
เป็นสัญลักษณ์บอกช่วงเวลามนุษย์ในแต่ละยุคสมัย
เหมือนกับที่มีการแบ่งประวัติศาสตร์ศิลปะ
ออกเป็นยุคเก่า ยุคกลาง ยุคใหม่
โลกมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว
ถ้านำของเก่ามาประยุกต์ใหม่
แล้วสังคมยอมรับก็กลายเป็นการสร้างสรรค์
แต่ถ้าสังคมไม่ยอมรับก็กลายเป็นการทำลาย
ทุกอย่างต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัว
ไม่มียกเว้นแม้แต่สถาปัตยกรรม
อันใหญ่โตอลังการในวัดพระธรรมกาย
ที่มีเจตนาสร้างขึ้นเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา
แต่ก็ยังมิวายต้องพิสูจน์ความจำเป็น
ความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการใช้งาน
ให้สังคมเห็น ให้สังคมยอมรับ แม้คนกว่า 90 %
จะไม่ได้ช่วยออกเงินค่าก่อสร้างวัดสักบาทเดียวก็ตาม
-----------------------------------------------------------
๒๓ กันยายน ๒๕๕๙
๑๙.๓๑ น.
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว
ก่อนจะสร้างสรรค์สิ่งใดออกมา ต้องแบ่งให้ดีว่า สิ่งที่ทำนั้น มันเป็นของกิน ของใช้ ของโชว์
Reviewed by
HappinessplusC
on
08:41:00
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น :